Mask Rider Haruhito
EP 01
เมื่อไหร่ที่ผมเลิกเชื่อเรื่องซานตาคลอสน่ะรึ? พูดจริงๆเลยนะคำถามพวกนี้ไม่มีความสำคัญสำหรับผมเลยจริง ๆ ยังไงก็ตามถ้าหากคุณถามผมว่าผมเลิกเชื่อเรื่องจำพวกชายแก่ๆที่ใส่ชุดแดงคือซานต้าเมื
่อไหร่ ผมจะตอบได้ทันทีเลยว่า ผมไม่เคยเชื่อเรื่องซานต้าเลยแม้แต่นิดเดียว
ผมรู้ว่าซานต้าที่ปรากฏตัวขึ้นที่ปาร์ตี้วันคริสต์มาสตอนที่ผมยังอยู่ชั้นอนุบาลนั้น
เป็นตัวปลอม ตอนนี้ผมมาคิดเรื่องนี้นะทุกๆคนในห้องก็ไม่เชื่อหรอกว่านั่นเป็นซานต้าจริง ๆ
ถึงผมจะไม่เคยเห็นแม่ของผมจูบซานตาคลอสก็เถอะแต่ผมก็ฉลาดพอที่จะสงสัยว่าชายแก่ที่ทำ
งานเฉพาะวันคริสต์มาสอีฟจะมีตัวตนจริง ๆ แต่ก็นานเหมือนกันกว่าผมจะรู้ว่าพวกเอเลี่ยน, ผี,สัตว์ประหลาด และเอสเปอร์อย่างในการ์ตูนประเภทคนดีๆสู้กับองค์กรชั่วร้ายนั่นไม่มีทางที่จะเกิดขึ้
นในชีวิตจริงหรอก
ไม่สิ ผมเคยคิดว่าผมแค่ไม่อยากจะยอมรับมันเพราะลึกๆแล้วผมอยากจะให้มีเอเลี่ยน, ผี, สัตว์ประหลาด, เอสเปอร์ และพวกองค์กรชั่วร้ายขึ้นมาจริงๆ ดูความน่าเบื่อของชีวิตผมสิ โลกแบบนั้นยังน่าอยู่ซะกว่า ผมล่ะอยากจะอยู่ในโลกที่มีของแบบนั้นจริงๆ! ผมอยากจะเป็นคนที่ช่วยเด็กผู้หญิงจากการลักพาตัวของมนุษย์ต่างดาว อยากจะใช้ความกล้าหาญ ความเฉลียวฉลาด และปืนเลเซอร์คู่ใจต่อสู้กับพวกเอเลี่ยนที่มาจากอนาคตเพื่อจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์เพ
ื่อผลประโยชน์ของพวกมันเอง ผมอยากจะเป็นคนที่กำจัดปิศาจและพวกสัตว์ประหลาดด้วยการท่องเวทย์มนต์ง่าย ๆ สู้กับพวกกลายพันธุ์และพวกสะกดจิตที่มาจากองค์กรชั่วร้าย และเข้าร่วมในสงครามโทรจิต!
แต่ชีวิตจริงมันช่างโหดร้ายสิ้นดี... สิ่งที่ผมคิดมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ผมมาถึงจุดที่คิดว่านั่นมันเป็นแค่เรื่องเพ้อฝันเท่านั้น แต่ทว่านั่นก็แค่ความคิดของผมในตอนแรกเท่านั้นแหละ เพราะความคิดเหล่านี้ของผมถูกขยี้ทิ้งลงถังขยะชนิดเอากลับมารีไซเคิ้ลอีกไม่ได้เลย เมื่อได้พบกับเธอ.........สุซุมิยะ ฮารุฮิ
นับแต่วันที่ชีวิตนักนักเรียนม.ปลายธรรมดา ๆ ของผมถูกทำลายจนป่นปี้ด้วยฝีมือของคุณเธอ ก็เป็นเวลาเกือบ 3 เดือนแล้ว อันที่จริงผมน่าจะรีบเผ่น ๆ ไปจากกองพันบ้า ๆ ที่ฮารุฮิสร้างขึ้นมา แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะทำไมเหมือนกันที่ผมไม่ยอมทำแบบนั้น จะเป็นเพราะผมเมาหรือเพราะอะไรอื่นกันแน่ ผมก็ยังไม่แน่ใจ ทว่าถึงผมจะบ่นไปอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ในใจลึก ๆ ผมก็ดีใจล่ะว่า มนุษย์ต่างดาว นักเดินทางข้ามกาลเวลา กับเอสเปอร์ มีตัวตนจริง ๆ เสียด้วย ชีวิตก็ไม่โหดร้ายอย่างที่คิดสินะ
แต่ว่าเรื่องที่ผมบ่นมายืดยาวนั้นกลับกลายเป็นเรื่องขี้ผงไปเลย นับแต่วินาทีผมได้พบกับสิ่งที่ไม่คาดฝันยิ่งกว่านั้น
มันเป็นวันที่ผมเดินกลับบ้านอย่างปกติเหมือนทุก ๆ วัน ในเส้นทางเดิม ๆ
"นี่ เดี๋ยวก่อนสิ"
ผมบีบเบรกเพื่อหยุดจักรยานที่กำลังขี่อยู่ทันที ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่รู้หรอกว่าเขาเรียกผมหรือเปล่า อันที่จริงถ้าผมปั่นไปเรื่อย ๆ โดยไม่สนใจซะแต่แรกก็คงสบายไปแล้ว
"ไม่ได้พบกันเสียนาน ฉันควรจะพูดแบบนี้สินะ"
ชายในชุดสูทสีดำ สวมแว่นตาดำ ท่าทางแปลก ๆ ทักทายผมเช่นนั้น ผมคิดว่าเขาทักคนอื่น แต่ว่าที่แห่งนั้นนอกจากผมกับเขาแล้วก็ไม่มีใครอีก ดังนั้นเขาก็คงพูดกับผมล่ะมั้ง แต่เอ๊ะ? ผมไปมีคนรู้จักอายุราว 25 - 26 ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
"คุณ....เป็นใคร?"
แน่นอนล่ะว่าผมควรจะถามเช่นนั้น ออกไปเพราะมันเป็นเรื่องของเวลาเจอคนไม่รู้จัก หรือผมอาจจำเขาไม่ได้เอง
"มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย ช่วยมาด้วยกันหน่อยได้ไหม?"
ชายคนนั้นขยับริมฝีปากออก พร้อมกับเอ่ยชวนผมอย่างพยายามจะทำให้สุภาพมากที่สุด ถึงแม้ผมจะไม่รู้สึกว่ามันเป็นอย่างนั้นก็เถอะ ผมตามเขาไปโดยไม่เอ่ยถามอะไร คุณอาจคิดว่าทำไมผมไม่หนี นั่นสิผมก็อยากรู้เหมือนกัน ทำไมผมต้องตามคนที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ แถมใส่ชุดอย่างกับเจ้าหน้าหน่วยสืบราชการลับอย่างนี้มาด้วย แต่ว่าคำตอบของเรื่องมันอยู่ถัดจากตรงนี้ไปแหละ
"ที่นี่เวลานี้คงไม่มีใครค่อยผ่านมานะ"
แมนอินแบล็ค คนนั้นมองไปรอบ ๆ ก่อนจะมองมาที่ผม ในตอนนี้ผมก็ชักอยากรู้แล้วสิว่าเขาพาผมมาที่สวนสาธารณะในเวลาเย็น ๆ จนเกือบจะมืดอย่างนี้ทำไม ใจหนึ่งผมก็กลัวว่าถ้าเขาคิดร้ายกับผม ผมจะทำเช่นไร อันที่จริงผมน่าจะเข็ดหลาบตั้งแต่เหตุการณ์ของอาซากุระ เรียวโกะ แล้วแท้ ๆ ผมคิดไปต่าง ๆ นา ๆ แต่ดูเหมือนว่า ระหว่างที่ผมกำลังคิดอยู่นั้นคนตรงหน้าผมจะมีอาการแปลก
"มาไวกว่าที่คิดแหะ"
เขาพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง แม้นว่าดวงตาจะถูกซ่อนอยู่ใต้แว่นดำ แต่ผมก็ยังรู้ได้ ให้ตายเถอะนี่เขาจะทำอะไรกับผมเนี้ย คงไม่ข่มขืนผมหรอกนะ!! แต่ว่าทำไมเขาถึงเริ่มจะทำในสิ่งที่ผมกลัวขึ้นมาทุกทีล่ะ วิ่งเข้ามาทำไม!!?
"หลบไป"
โอ้ย!!! เจ็บชะมัดทำไมจู่ ๆ ชายคนนั้นก็ผลักผมลงล้มกลิ้งด้วย
"มันเจ็บนะเจ้าบ้า!!!"
ผมตะโกนด่าออกไปด้วยอารมณ์โมโห แต่แล้วผมก็ได้เห็นในสิ่งจะบอกว่า แปลกใหม่หรือชินตาสำหรับผมดีล่ะ นายคนนั้นกำลังใช้ดาบรับกรงเล็บของอะไรซักอย่าง ที่ดูตัวเขียว ๆ แต่เอ๊ะ? เขาไปหยิบดาบมาจากที่ไหนล่ะ?
Stand By
เสียงที่ดังแว่ว ๆ ออกมาจากพื้นใกล้ ๆ มีบางสิ่งบางอย่างโผล่พรวดออกมาจากผิวดิน แว๊ก!! นั่นมันแมงป่องนี่ เอ๊ะ!? ทำไมมันสีเงินล่ะ? หรือมันเป็นแมงป่องพันธุ์ใหม่แกะกล่อง ที่ยังไม่ถูกค้นพบ ดูเหมือนว่าในระหว่างที่ผมให้ความสนใจกับเจ้าแมงป่องรูปร่างพิลึกพิลั่นนี่ ชายคนนั้นก็ผละตัวเองออกมาจาก สิ่งที่ผมอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูกนั่นถอยออกมาใกล้ ๆ ผม
"ไปหาที่หลบซักพอก่อนไป"
ผมได้ยินเขาพูดออกมาแบบนั้น อันที่จริงถึงไม่บอกผมก็กะจะหนีอยู่แล้วล่ะ แต่ถึงงั้นก็เถอะแล้วผมจะหนีไปไหนล่ะ?
HenShin
เสียงที่ผมได้ไม่ใช่เสียงพูดของคนในเสื้อสูทดำ แต่ว่ามันดังออกมาจากตัวเขาแน่นอน ไม่สิ!! เสียงนี้ไม่น่าจะใช่เสียงคนเสียด้วยซ้ำ เสียงนี้ดังออกมาตอนที่เขาเสียบเจ้าแมงป่องที่กระโดดขึ้นไปบนมือเขาลงไปบนดาบที่เขาถ
ือ ทำให้ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าเจ้าแมงป่องตัวน้อยนั้นคงไม่ใช่สิ่งมีชีวิตพันธุ์ใหม่แล้
วล่ะ หากแต่เป็นของที่ทำให้ดูเหมือนแมงป่องซะมากกว่า แต่นี่มันคงไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องใส่ใจในตอนนี้
ผมควรจะตกใจดีไหม เมื่อเห็นชายคนนั้นค่อย ๆ มีอะไรบางอย่างมาหุ้มร่างและกลายเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ ที่แปลกประหลาดพอ ๆ กับไอ้ตัวสีเขียวนั่น ถึงจะดูดีกว่าก็เถอะ แต่ทว่าผมไม่ค่อยจะชอบไอ้ท่อสีส้ม ๆ ที่อยู่ตามตัวเลยแหะ ถ้าหากเป็นปกติคงต้อง ทำหน้าตะลึงหรือไม่ก็ร้อง จ๊าก!! แล้ววิ่งหนีไปให้สุดชีวิตใช่ไหม? ผมเองก็อยากทำแบบนั้นแต่ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเพราะอะไรยังทำให้ผมยืนดูอยู่ตรงนั้น และดูเหมือนว่าผมไม่รู้สึกตกใจเท่าไหร่เลยด้วย อาจเป็นเพราะผมผ่านเหตุการณ์น่าทึ่งแบบนี้มาหลายครั้งมั้ง น่าขอบใจเธอจริง ๆ เลยฮารุฮิ
ประกายไฟที่สว่างวาบ เพราะดาบในมือที่ฟาดฟันลงไปมันส่องสว่างให้เห็นได้ชัดในที่เริ่มมืดแบบนี้ ชายที่แปลงร่าง หรือ ใส่เกราะหรือะไรก็ช่างเถอะ ได้ฟาดฟันกับสิ่งที่ผมจะเรียกว่า สัตว์ประหลาดก็คงไม่ผิดเพี้ยนนัก อมนุษย์สองตัวฟาดฟันกันอยู่ตรงหน้าผมห่างไปไม่เกิน 10 เมตร ให้ตายเถอะ มันยิ่งกว่าความรู้สึกของพี่เลี้ยงนักมวยที่ยืนเชียร์อยู่ข้างเวทีเสียอีก
"ย๊าก!!!"
เสียงตะโกนเพื่อเรียกพลังใจหรือเพราะอะไรก็ไม่ทราบดังออกมาในขณะที่เขากฟาดดาบอย่างเ
มามัน ดูเหมือนว่าถ้านี่คือการแสดงหนังฮีโร่ หรือรายการล้อกันเล่น ๆ ผมก็จะดีใจยิ่งกว่านี้ แต่ว่าการที่จู่ ๆ มีไอ้ตัวแบบเดียวกับไอ้ตัวเขียว ๆ ที่กำลังโดนสับอย่างสนุกสนานอยู่ข้างหน้าผมโผล่มาเพิ่มอีก 4-5 ตัวเนี้ย ผมไม่ยินดีเลยนะ
เหมือนสวรรค์ทรงโปรดที่ คนที่แต่งชุดฮีโร่ดีไซน์ไม่ถูกใจผมนักกระโดดมาช่วยผมที่กำลังจะโดนรุมกินโต๊ะ เอาไว้ได้ทันเวลา คมดาบที่สับไปสับมาอย่างรวดเร็ว
ตูม!!! ตูม!!! ตูม!!! ตูม!!!
เสียงระเบิดที่ดังลั่นกับประกายไฟสีเขียวที่ลุกวาบทำเอาผมแทบล้มทั้งยืนแนะ เป็นเอฟเฟคที่ตระการตาไม่น้อย นี่ถ้าเป็นหนังฉายทางทีวีคงเรียกเรทติ้งได้ดีน่าดู
"ไม่เป็นไรนะ"
เสียงของชายที่เรียกผมมาที่แห่งนี้ดังลอดผ่านหน้ากากออกมาอย่างชัดเจน น่าแปลกถ้าใส่หน้ากากอยู่ก็น่าจะเสียงอู้อี้กว่านี้แต่ทำไมเสียงของเขาถึงชัดแจ๋วอย่
างกับพูดปกติเลยล่ะ?
"หลบไป!!!"
หลังจากที่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรกันเป็นเรื่องเป็นราวผมก็โดนเขาผลักกระเด็นอีกแล้ว ถ้าวันนี้ผมรอดตายไปแบบครบ 32 ได้ก็คงเป็นโชคดีที่สุดในชีวิตผมแล้วล่ะ
แต่ดูเหมือนว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่กระเด็นแหะ เพราะพอผมลุกมาอีกที ผมก็เห็นเขาลอยไปลอยมา เหมือนลูกพินบอลที่โดนตบไปกระแทกสิ่งกีดขวางอยู่แปบหนึ่งก่อนที่กระเด็นไปทับม้านั่ง
ยาวที่อยู่ใกล้ ๆ หักเป็นสองท่อน และดูเหมือนว่าจะมีอะไรบางอย่างปรากกฏตัวอยู่ข้างหน้าผมห่างไปราวห้าเมตร ตัวประหลาดอีกแบบโผล่ออกมาแล้วแหะ นี่ถ้าผมกำลังฝันอยู่ใครก็ได้ช่วยเตะผมให้ตื่นทีเถอะ
Cast Off
เสียงแบบตอนนั้นดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับอะไรก็ไม่รู้ลอยผ่านหน้าและหัวผมไปอย่างเร็ว
ฉิว ในขณะที่ไอ้ตัวที่ยืนอยู่ก็ล้มไม่เป็นท่าเหมือนกัน แว่บ ๆ ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรมากระแทกมันนะ
Change Scorpion
เสียงแบบเดียวกันดังขึ้นอีกในเวลาถัดมาเพียงไม่กี่วินาที ร่างที่ลุกขึ้นมาจากม้านั่งที่หักสองท่อนยืนตระหง่านพร้อมตั้งดาบในมือขนานลำตัวอย่า
งมาดแมน เวลานี้ผมรู้สึกว่าชุดนี้ดูเท่ห์กว่าไอ้ชุดหลอดกาแฟเมื่อกี้เยอะเลย แต่เอ๊ะ เจ้าตัวที่ยืนล้มไปเมื่อกี้มันอยู่ไหนแล้วล่ะ มันหนีไปแล้วหรือ?
"Clock Up"
Clock Up
เสียงที่ดังลอดออกมาจากหมวกที่ทำให้มีหางอย่างกับแมงป่องตั้งเด่อยู่บนหัวนั้นแลดเข้
าหูผมอย่างชัดเจน พร้อมกับเสียงที่ย้ำคำนั้นก็ดังตามมาติด ๆ วินาทีนั้นมันเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ทราบรู้ตัวอีกที เขาก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว ก่อนจะเกิดเสียงระเบิดดังลั่นตามมาติด ๆ จากด้านหลังของผม
Clock Over
ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะจบลงที่ผมไม่ทราบอะไรเลยซักกะนิด นี่มันเกิดอะไรกับชีวิตผมอีกเนี้ย!! ชายคนนั้นเดินเข้ามาหาผมอย่างช้า ๆ ดูเหมือนสายตาเขาจะจับจ้องผ่านกระจกสีเขียว ๆ ของหมวกแมงป่องนั่น เขาเดินมาใกล้ผมมาขึ้นเรื่อย นี่ผมควรจะหนีดีไหมเนี้ย?
"โทษที ที่ทำให้ตกใจนะ ดูท่าจะไม่บาดเจ็บสินะ"
เขาถามผมด้วยเสียงเรียบ ๆ ในขณะที่ไอ้ชุดภายนอกก็แตกออกอย่างกับเปลือกแมลงแล้วก็หายไปพร้อมกับการกระโดดจากไปข
องเจ้าแมงป่องรูปร่างพิลึกนั่น ตอนนั้นผมยืนทำหน้ายังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมก็ชักจะรู้สึกตัวว่าเสียงของคน ๆ นี้มันเหมือนเคยได้ยินที่ไหนนะผมว่ามันคุ้นหูมากทีเดียวล่ะ
"ตะกี้เสียเวลานิดหน่อย ก็เลยยังไม่ได้บอก ฉันก็คือตัวนายไงล่ะ"
คำพูดของเขาทำเอาผมอึ้งไปราว 0.5 วินาที ตัวผม เขาคือตัวผมเหรอ แล้วผมในตอนนี้เป็นใครล่ะ? ตกลงนี่มันอะไรกันแน่ แต่ระหว่างที่ผมอึ้งเขาก็ถอดแว่นดำออก ถึงมันจะทำใจเชื่อยาก แต่ก็ต้องเชื่อ เพราะหน้าของคนที่อยู่ตรงหน้า มันมองยังไงก็เหมือนผมไปทุกอย่าง จะผิดเพี้ยนก็คือความสูง กับใบหน้าที่ดูแก่กว่าผม ใบหน้าแบบนี้ต้องซัก 20 ปีขึ้นไปแน่ ๆ เลย แต่ว่าทำไมตัวผมอีกคนถึงได้มาอยู่ตรงนี้ ไม่สิผมจะทำใจเชื่อได้หรือ? จะเป็นรายการล้อกันเล่น ก็ไม่น่าจะหาคนหน้าเหมือนผมได้ขนาดนี้นะ อ่า~ นี่ผมกลายเป็นพวกเดียวกับคุณอาซาฮินะไปซะแล้วหรือนี่?
"ไม่ต้องตกใจไปฟังให้ดี ๆ ตัวฉันในอดีต ฉันคือนายในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้าฉันย้อนกลับมาที่เวลานี่เพราะมีเหตุผลบางอย่าง"
ถึงผมจะไม่อยากเชื่อ แต่ก็คงต้องเชื่อเพราะผมเองก็เคยเจอกรณีเช่นนี้มาก่อนแล้ว แต่ไอ้ว่าที่ไม่อยากเชื่อก็ไมใช่สิ่งที่เขาพูด แต่เป็นรูปร่างของเขาตะหาก ไม่น่าเชื่อเลยว่าตัวผมในอนาคตจะเท่ห์แบบนี้ ดูเหมาะกับสูทดำเสียจริง ๆ แต่ถ้าผมพูดออกไปดัง ๆ ก็เหมือนกับชมตัวเองน่ะสิ
"เรื่องอะไรงั้นเหรอ?"
ผมถามตัวผมเองที่อยู่ตรงหน้า แต่แบบนี้มันฟังแปลก ๆ นะ
"รับนี่ไป"
ตัวผมในอนาคตยื่นดาบที่เขาใช้เมื่อครู่ให้กับผม
"นี่มัน.....อะไร?"
"ซาซอร์ดไยบะ อุปกรณ์ที่คู่กับ ซาซอร์ดเซ็กเตอร์ เมื่อครู่นายก็คงได้เห็นแล้วถึงการใช้งานของมันแล้วสินะ"
สีหน้าอมยิ้มเล็ก ๆ ที่จ้องมองมาที่ผมนี่ ทำไมผมรู้สึกอึดอัดจังแหะ ผมเคยยิ้มด้วยหน้าตาแบบนี้ด้วยเหรอ?
"ว่าแต่ว่า ให้เจ้านี่มาทำอะไร?"
ถึงผมจะไม่รู้เรื่องอะไรมากนัก และเอ่ยถามไปอย่างนั้นแต่ผมก็เอื้อมมือไปรับของที่ยื่นมาให้นั่นอย่างไม่รอช้าเลย
"ฉันบอกรายละเอียดมากมายไม่ได้ แต่ว่าจากนี้ไปเจ้าสิ่งนี้จำเป็นสำหรับนายส่วนนี่ก็เป็นคู่มือการใช้ อ่านมันซะแล้วจำให้ขึ้นใจ"
หลังจากยื่นดาบมาให้แล้วเขาก็ยื่นแผ่นพับที่ดูเหมือนกระดาษคู่มือสำหรับของเล่นเด็กม
าให้ผม ให้ตายเถอะทำไมขอจากอนาคตถึงไม่ทำให้มันดูมีเกรดกว่านี้นะ
"ซาซอร์ดไยบะ จะตอบสนองกับตัวผู้ใช้ ยามที่ต้องการมันจะปรากฏออกมาเอง เวลาจะเก็บมันก็คิดให้มันหายไปมันก็จะหายไป ที่เหลือก็อ่านในคู่มือการใช้ก็แล้วกัน"
ผมรับแผ่นคู่มือมาโดยไม่ได้ถามอะไร แต่ตอนนั้นตัวผมในอนาคต ดูเหมือนจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ในตอนนั้น
"ขอโทษที ที่บอกอะไรมากไม่ได้ แต่จากนี้ไปนายคงต้องเจอกับเรื่องหนัก ๆ ซักหน่อย"
ที่เจออยู่ทุกวันนี้ยังไม่หนักพออีกเหรอ?
"ส่วนไอ้กระเป๋าพวกนี้ มันถูกล็อกไว้ให้เปิดตามเวลา ถ้าหากไม่ถึงเวลาที่กำหนดมันก็จะไม่เปิดออกมา"
ดูเหมือนว่าของฝากจากอนาคตจะยังไม่หมด กระเป๋าเหล็กใบไม่ใหญ่ไม่โตทรงโหล ๆ สี่ใบถูกยื่นให้ผม แต่เอ๊ะ แกไปเอามาจากไหนทั้ง ๆ ที่ตะกี้ยังมือทั้งสองข้างยังไม่มีอะไรแท้ ๆ หรือว่าตัวผมในอนาคตจะเป็นนักมายากลกันนะ
"เวลาของฉันมีน้อยน่าเสียดาย ฉันเองก็ต้องรีบไปแล้วไม่งั้น อนาคตอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ฉันหวังว่า ของที่ฉันมอบให้จะช่วยให้นายทำในสิ่งที่ฉันอยากจะทำที่สุดได้ จงอย่ายอมแพ้ถ้าหากไม่อยากสูญเสียสิ่งที่รักมากที่สุด"
นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายที่ตัวผมในอนาคตทิ้งไว้ก่อนจะเดินอย่างมาดเท่ห์เหมือนพระเอกหนั
งบู๊และหายลับไปในความมืดของสวนสาธารณะแห่งนั้น ฟังตัวเองพูดแบบนั้นแล้วยังไงก็ไม่รู้แหะจะว่าเท่ห์ก็เท่ห์ แต่จะว่าน้ำเน่าก็เน่าอยู่ อันที่จริงในตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยจะเข้าใจเรื่องที่ตัวเองพูดให้ฟังซักเท่าไหร่ รู้แต่เพียงว่า ผมต้องหิ้วไอ้กระเป๋าเหล็ก 4 ใบนี่กลับบ้านหรือเนี้ย โอ้จอร์จ หนักตายชักเลย!!
ผมต้องหิ้วกระเป๋าพวกนั้นกลับบ้านโดยไม่มีทางเลือก
แต่ก็แปลกที่คนในบ้านกลับไม่มีใครถามอะไรเกี่ยวกับไอ้กระเป๋าเหล็ก 4 ใบที่หิ้วมาเลย ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีล่ะนะ ถึงผมจะสงสัยอยู่บ้างก็เถอะว่าไอ้กล่องบ้าพวกนี้ใส่อะไรอยู่ก็เถอะ แต่ว่ามันเปิดไม่ได้ ถ้าผมจะแงะก็คงได้ แต่ก็ไม่กล้าเสี่ยงเพราะมันเป็นของที่ตัวผมเองฝากมาให้ผม มันก็เหมือนของผมใช่ไหม? พูดไปก็งง ๆ เหมือนกัน แต่ว่าหลังจากคืนนั้นผมก็พยายามลืมเรื่องนี้ไป แล้วก็ออกไปโรงเรียนในตอนเช้าอย่างปกติสุข ทว่าเหตุการณ์ที่ผมไม่อยากจะจำจริง ๆ มันกลับจะเริ่มหลังจากนี้เป็นต้นไปตะหาก
To Be Conitnue