Stage_12 Stronger Without You
นายพลเดินนำบอสไปหยุดอยู่หน้าเครื่องVCลายสีน้ำเงินตู้หนึ่งซึ่งมีหญิงสาวนั่งอยู่ด้านใน เมื่อเธอเห็นชายร่างใหญ่ก็เลื่อนประตูเปิดให้
เลือกโหมดไว้ให้แล้วค่ะ หัวหน้า ใส่หมวกแล้วเข้าเกมได้เลย น้ำทิพย์บอกแล้วก้าวออกมาจากตู้เครื่องVC พลันสังเกตเห็นบอสยืนอยู่ด้านหลังชายร่างอ้วน เด็กคนนั้น...
เขาคือบอส นักธนูที่ได้MVPจากไลโอเนลเมื่อวานนี้ไงล่ะ บอสสวัสดีเธอเมื่อนายพลพูดจบ หญิงสาวได้ฟังก็ทำตาโตเหมือนไม่อยากเชื่อ
สวัสดีจ้ะ พี่ชื่อน้ำทิพย์ น้องนี่เด็กกว่าที่พี่คิดไว้ซะอีกนะ ...แต่ไม่เป็นไรหรอก ฝีมือของน้องดีกว่าพี่ตั้งเยอะ ต้องออกบัตรได้เร็ว ๆ นี้แน่ น้ำทิพย์พูดด้วยความเชื่อมั่น แต่บอสกลับทำหน้าเหลอหลาไม่เข้าใจ
นายพลเห็นดังนั้นจึงหันมาอธิบาย คนที่ชนะด่านสุดท้ายของVCโหมดเซอร์ไวเวิล จะได้รับบัตรเล่นเกมVCสีเงินที่สามารถเล่นเครื่องสีไหนก็ได้ไงล่ะ บัตรธรรมดาจะเล่นได้แค่เครื่องสีเดียวกับบัตรเท่านั้น และบัตรที่มีรหัสห้าหลักแรกจะเล่นพร้อมกันไม่ได้อีกด้วย
งั้นถ้าผมเล่นอยู่พี่พลก็เล่นไม่ได้สิครับ บอสรู้สึกผิดที่จะทำให้อีกฝ่ายไม่ได้เล่น แต่ชายร่างใหญ่กลับยิ้มมุมปาก
ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ไม่ค่อยได้มาเล่นเท่าไร แม้จะพูดแบบนั้นแต่เด็กหนุ่มก็ยังทำหน้าเครียด ถ้าไม่อยากใช้รหัสบัตรของพี่ก็รีบเคลียร์โหมดเซอร์ไวเวิลแล้วออกบัตรสีเงินให้ได้สิ บัตรที่ออกใหม่จะได้รหัสใหม่ด้วย ทีนี้ก็ไม่ต้องรบกวนพี่แล้ว
บอสเผยรอยยิ้มเหมือนเห็นทางสว่างอยู่รำไร งั้นผมขอเริ่มเล่นเลยได้ไหมครับ
เอาสิ เข้าไปนั่งตรงนั้นแล้วเข้าสู่ระบบด้วยยูสเซอร์เนมในมิทิเออร่าได้เลย ชายร่างใหญ่เปิดทางให้บอสเข้าไปในตู้เครื่องVC ด้านในมีเก้าอี้ท่าทางนั่งสบายตัวหนึ่ง จอคอมพิวเตอร์ที่ฝังอยู่กับผนังตู้ ด้านขวาของจอมีรูเสียบบัตร ซึ่งบัตรสีน้ำเงินเหมือนของเขากำลังเสียบอยู่ บอสเดาว่าคงเป็นของหญิงสาวที่ชื่อน้ำทิพย์ ต่ำจากจอลงมาเล็กน้อยคือโต๊ะวางคีย์บอร์ดและเมาส์ นอกจากนั้นยังมีหมวกที่คล้ายหมวกกันน็อค ต่างเพียงมีสายไฟเชื่อมด้านหลังหมวกกับรูเสียบบนโต๊ะวางคีย์บอร์ด
บนจอคอมพิวเตอร์ปรากฏหน้าเข้าสู่ระบบ พื้นหลังสีดำสนิทมีตัวอักษรเขียนไว้ว่า Virtual Combat 0.7 [Mode: Survival *Red] บอสเลื่อนเมาส์มาคลิกช่องใส่ข้อมูลแล้วพิมพ์ลงไป
username: bozz
password: *******
Receiving data from MA database...
[กำลังรับข้อมูลจากฐานข้อมูลมิทิเออร่า...]
ครู่หนึ่งตัวหนังสือบนหน้าจอก็เปลี่ยนไป และมีปุ่มตัวเลือกสองปุ่มปรากฏขึ้น
[Player Data]
Name: Bozz
Lv: 58
Class: Archer
Welcome_to_the_world_of_Virtual_Combat_
You_chose_Mode:_Survival_Level:_Red_Star_
Do_you_want_to_start_the_game_now?
Choices: (Yes!) (No, I want to change mode first.)
[ยินดีต้อนรับสู่โลกแห่ง เวอร์ชวล คอมแบ็ท]
[คุณได้เลือก โหมด: เซอร์ไวเวิล(เอาตัวรอด) ระดับ: ดาวแดง]
[คุณต้องการเข้าสู่เกมทันทีหรือไม่]
[ตัวเลือก: (เข้าเลย!) (ไม่ ฉันอยากเปลี่ยนโหมดเกมก่อน)]
เลือกข้อแรกแล้วใส่หมวกอาร์เอฟได้เลย นายพลบอก บอสจึงคลิกตัวเลือกแรกแล้วมองหา หมวกอาร์เอฟ
พี่หมายถึงหมวกกันน็อคนี่หรือเปล่าครับ
ชายร่างใหญ่พยักหน้าแทนคำตอบ เด็กหนุ่มจึงหยิบหมวกซึ่งแขวนอยู่ข้างโต๊ะวางคอมพิวเตอร์ขึ้นมาดู น้ำหนักของมันพอ ๆ กับหมวกกันน็อคทั่วไป แต่พื้นรองด้านในที่เป็นกระจกใสทำให้เห็นว่ามีสายไฟระโยงระยางอยู่เต็มไปหมด กระจกหน้าสำหรับครอบดวงตาถูกเปลี่ยนเป็นหน้าจอแสดงผลแบบบาง และด้านข้างหมวกได้ใส่หูฟังคล้ายของแว่นตาอาร์เอฟลงไป
รีบใส่หมวกได้แล้วล่ะ เกมจะเริ่มแล้ว วิธีใช้เหมือนกับแว่นตาอาร์เอฟนั่นแหละ ส่วนการออกจากเกมก็พิมพ์ /quit นายพลพูดขึ้น เมื่อบอสมองหน้าจอก็พบว่ามีตัวเลขกำลังนับถอยหลังอยู่ จึงสวมหมวกในมือลงไป
6...5...4...3...2...1.....
[Player] Bozz (VS) Fencer [VC]
STAGE OPEN!
เขาได้ยินเสียงประตูตู้เครื่องVCปิดลง จากนั้นเบื้องหน้าก็ปรากฏห้องสี่เหลี่ยมกว้าง ๆ ซึ่งมีเพดานสูงลิบลิ่ว ชายผิวคล้ำคนหนึ่งถือดาบคู่เรียวยาวยืนนิ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของห้อง จ้องมาที่เขาไม่วางตา ชื่อตัวละครสีแดงที่ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะบ่งบอกว่าเป็นตัวละครฝ่ายศัตรู
ภาพกราฟฟิกของเกมนี้ถูกพัฒนาให้มีความละเอียดกว่ามิทิเออร่า สังเกตได้จากรอยแตกบนพื้นห้อง ใบหน้าคู่ต่อสู้ และอาวุธในมือซึ่งส่องประกายเสมือนดาบจริง นอกจากนั้นบอสยังสัมผัสได้ถึงความเคียดแค้นจากดวงตาของชายผิวคล้ำ มันทำให้ไฟการต่อสู้ของเขาลุกโชนขึ้น
ระบบมีเวลาให้เตรียมอาวุธและเครื่องสวมใส่หนึ่งนาทีก่อนการต่อสู้ค่ะ ผู้เล่นสามารถเปิด-ปิดมิติเก็บของได้ทุกเวลาโดยพิมพ์ /st ..เริ่มจับเวลาค่ะ
จู่ ๆ เสียงผู้หญิงก็ดังขึ้นเหมือนมีคนมากระซิบข้างหู เด็กหนุ่มหันซ้ายหันขวาทว่าไม่พบผู้พูด จึงได้แต่พิมพ์เปิดมิติเก็บของ ไอเทมทั้งหมดของเขาในเกมมิทิเออร่าปรากฏขึ้น เขาเลือกอย่างพิถีพิถันออกมาสองสามอย่าง
เหลืออีกสามสิบวินาทีค่ะ
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ทำเอาบอสสะดุ้งโหยง เขารู้สึกเหมือนมีคนมากระซิบข้างหูจริง ๆ
ไม่นานเขาก็สวมใส่ไอเทมเสร็จเรียบร้อย ในมือถือธนูราคาแพงที่เพิ่มระยะการยิง แต่ลดความแม่นยำ ด้านหลังสะพายกระบอกใส่ลูกธนูซึ่งมีลูกศรปนกันหลากหลายชนิด ถุงมือที่สวมช่วยเพิ่มความแม่นยำขึ้นเล็กน้อย และใช้รองเท้าบู๊ทหนังสีดำสำหรับเพิ่มความเร็วในการเดินถอยหลัง
เหลืออีกสิบวินาทีค่ะ
บอสเตรียมตัวออกวิ่งเพื่อให้เข้าสู่ระยะยิงธนู เขาพยายามหยิบลูกศรออกมาจากกระบอกใส่แต่ทำไม่ได้ จึงเดาว่าน่าจะต้องรอให้เริ่มการต่อสู้ก่อน
ปลายรองเท้าบู๊ทจิกเข้าไปในพื้น เด็กหนุ่มนับถอยหลังในใจอย่างตื่นเต้น
หมดเวลาเตรียมตัวค่ะ เริ่มการต่อสู้ได้!
สิ้นเสียงหญิงสาว บอสกับชายนักดาบผิวคล้ำก็พุ่งตัวออกมาพร้อม ๆ กัน เด็กหนุ่มยิ้มชอบใจที่อีกฝ่ายช่วยร่นระยะยิงให้เขา
เมื่อนักดาบเข้ามาในระยะธนู บอสก็หยุดเท้าแล้วรีบง้างสายธนูยิงออกไป
ทว่าชายผิวคล้ำโยกตัวหลบได้อย่างง่ายดาย! เด็กหนุ่มเห็นก็นึกได้ทันทีว่ากำลังต่อสู้กับอาชีพFencer (นักฟันดาบ) ซึ่งสามารถเคลื่อนไหวและโจมตีได้รวดเร็ว อีกทั้งเป็นอาชีพสายโจมตีระยะประชิดที่จะได้เปรียบนักธนูทันทีเมื่อเข้าถึงตัวได้
บอสจำต้องเปลี่ยนมาตั้งรับแทน โดยใช้วิธียิงไปถอยหลังไป แต่ชายนักดาบก็หลบศรธนูได้ทุกครั้ง และเข้าใกล้บอสมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่ง...
Shining Speedy Shot!
เด็กหนุ่มยิงลูกศรความเร็วแสงออกไปเมื่อทั้งสองห่างกันไม่กี่เมตร หัวลูกศรเล็งปักไปที่กลางหัวใจ แต่ชายผิวคล้ำขยับตัวหลบในวินาทีสุดท้าย ทำให้ลูกศรเบี่ยงไปจากเป้าหมายเล็กน้อย
ปฏิกิริยาแบบนี้... จุดอ่อนคงอยู่ที่หัวใจสินะ บอสคิดในใจพลางหยิบศรธนูดอกใหม่ออกมา แต่ไม่ทันที่จะง้างสายธนูเตรียมยิง ชายนักดาบก็เข้าประชิดตัวเขาพร้อมกับฟาดดาบเรียวยาวทั้งสองเข้าใส่
ชิ! โชคดีที่คมดาบเพียงทำให้ชุดเกราะบริเวณไหล่ของเด็กหนุ่มขาดเท่านั้น เขารีบก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วด้วยสัญชาตญาณ พลางนึกโทษตัวเองที่ไม่ทันคิดว่าคู่ต่อสู้จะยังวิ่งเข้าหาต่อแม้กำลังบาดเจ็บ
นักดาบผิวคล้ำมีกำลังใจยิ่งขึ้นจึงรุกไล่บอสด้วยความเร็วสูงสุด ฝ่ายนักธนูทำอะไรไม่ได้นอกจากถอยหนี เพราะเขาได้บทเรียนมาแล้วจากการลองยิงไปด้วยจนถูกอีกฝ่ายประชิดตัว
ครู่เดียวหลังของเขาก็ชนกำแพง เด็กหนุ่มมองคู่ต่อสู้อย่างหวาด ๆ และกำธนูแน่น ส่วนชายนักดาบย่างสามขุมเข้าหาอย่างมั่นใจ ปรากฏรอยยิ้มอันโหดเหี้ยมบนใบหน้า
นักธนูเม้มปากแน่น ครุ่นคิดอย่างหนักว่ามีไอเทมอะไรในมิติเก็บของที่ช่วยเขาได้บ้าง ในขณะที่นักดาบหนุ่มค่อย ๆ ก้าวเข้าหาเหมือนกับภาพสโลว์โมชั่น
เท่าที่อ่านในเว็บไซต์.. กว่าจะเปิดมิติเก็บของ หยิบไอเทม แล้วใช้ไอเทม ต้องเสียเวลาพอสมควร ไม่ทันแน่ บอสกุมขมับด้วยความเครียด ก่อนจะพยายามนึกทวนอาวุธที่มีอยู่กับตัว เรามีแต่ธนูกับลูกศร จะยิงธนูระยะประชิดก็คงไม่เหมาะ ถ้าอย่างนั้น...
จู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในสมอง ทำให้เด็กหนุ่มยิ้มออกมา แม้มันจะไม่ปลอดภัยนักแต่เขาก็ไม่คิดว่าจะมีทางเลือกที่ดีกว่านี้อีกแล้ว
นักดาบผิวคล้ำชะงักไปเล็กน้อยเมื่อบอสทิ้งธนูและกระบอกใส่ลูกศรลงกับพื้น จากนั้นหยิบศรธนูเงินออกมาหนึ่งดอก
ไม่อยากใช้วิธีนี้เลย ให้ตายสิ เขาบ่นแต่ก็ยังพุ่งเข้าใส่นักดาบตามแผน ธนูกับกระบอกใส่ลูกศรที่ถ่วงน้ำหนักถูกปลดทิ้งทำให้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นมาก พวกเขายืนห่างกันเพียงสองเมตร นักธนูจึงเข้าประชิดตัวได้ในวินาทีถัดมา
ชายผิวคล้ำจ้วงแทงดาบหนึ่งออกไป บอสไม่คิดหลบ แต่เสียบศรเงินที่มีหัวแหลมคมเข้าใส่ร่างของอีกฝ่ายแทน
เด็กหนุ่มร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด แต่ใบหน้าแฝงความดีใจที่ปิดไม่อยู่เอาไว้ ดาบเล่มเรียวแทงเข้าที่ท้องของเขาสร้างแผลฉกรรจ์ได้ก็จริง แต่ศรธนูเงินของเขาเสียบลึกใส่บริเวณหัวใจของคู่ต่อสู้ มอบความตายให้ในบัดดล
คู่ต่อสู้ไม่สามารถสู้ต่อได้... คุณเป็นฝ่ายชนะ เสียงหญิงสาวดังขึ้นข้างหู ทำเอาบอสสะดุ้งโหยงอีกครั้ง แล้วพลันนั้นทุกอย่างก็กลายเป็นสีดำสนิท ความเจ็บปวดบริเวณท้องหายไป
ต่อสู้ได้ยอดเยี่ยมมาก คราวนี้เป็นเสียงของนายพล เด็กหนุ่มจึงรู้ว่าเขาออกมาจากเกมแล้ว พักก่อนก็ได้นะ ยังเหลืออีกสิบสี่ด่านกว่าจะจบ
บอสถอดหมวกอาร์เอฟออกมาพร้อมกับอ้าปากค้าง สิบสี่ด่านเลยเหรอครับ...
ใช่สิ แต่ไม่ต้องเครียดนักหรอก วันนี้เล่นถึงด่านไหนก็เซฟเอาไว้ไปเล่นต่อวันอื่นได้อีก
เด็กหนุ่มร่างสูงถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้ยินเช่นนั้น แค่ด่านแรกก็กระอักกระอ่วมพออยู่แล้ว เขาแทบไม่อยากคิดเลยว่าถ้าต้องเล่นให้ชนะสิบห้าด่านภายในวันเดียวจะมีสภาพเป็นอย่างไร
เอ่อ พี่พลครับ เคยมีใครออกบัตรสีเงินได้หรือยังครับ
เคยแล้วล่ะ คนแรกที่ทำได้เป็นคนรู้จักของพี่เอง นายพลลูบคางคล้ายกำลังครุ่นคิด ตอนแรกเขาใช้บัตรของพี่เล่นเหมือนกับนายนั่นแหละ หลังจากนั้น..ประมาณเดือนกว่า เขาก็เคลียร์โหมดเซอร์ไวเวิลจนได้ ชายหนุ่มกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
เดิมทีบอสอยากจะแสดงความสามารถให้นายพลเห็นด้วยการออกบัตรสีเงินเป็นคนแรก แต่ในเมื่อมีคนทำได้แล้ว เป้าหมายของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นการทำลายสถิติเวลาการออกบัตรแทน เขาเชื่อมั่นอย่างมากว่าตนจะออกบัตรได้ภายในหนึ่งเดือน และรั้งตำแหน่งผู้เล่นที่ออกบัตรสีเงินได้เร็วที่สุด
มันเป็นการต่อสู้กับตัวเอง ...เขามักตั้งเป้าหมายเช่นนี้บ่อย ๆ ในการทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้ตัวเองมีความตั้งใจในการทำมากขึ้น บางครั้งเป้าหมายของเขาก็สูงเกินเอื้อม แต่ก็มีหลายครั้งที่เขาทำได้ดีกว่าเป้าหมายเสียอีก อย่างไรก็ตาม ยังมีเป้าหมายหนึ่งที่เขาตั้งเอาไว้นานแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้เสียที เขาพยายามมาตลอดเพื่อจะพิชิตเป้าหมายนั้นให้ได้
นั่นคือ...การเอาชนะเวทย์!
********************
เวทย์กลับมาถึงห้องพัก โดยที่ดรุณเดินตามมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อเด็กหนุ่มสังเกตเห็นก็กล่าวขึ้น
พี่ยังโกรธผมอยู่เหรอครับ ผมต้องขอโทษจริง ๆ นะครับที่ทำให้ไม่พอใจ
เปล่า ๆ ฉันไม่ได้คิดเรื่องของเธออยู่หรอกนะ หนูเวทย์
คำพูดทีเล่นทีจริงของดรุณทำให้เวทย์เลิกคิดสงสารเขาขึ้นมาทันที แต่อีกใจหนึ่งก็ยินดีที่ชายหนุ่มกลับมามีชีวิตชีวาเหมือนเดิมอีกครั้ง
ความกังวลถูกกลบเกลื่อนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มของชายGM ขอใช้โทรศัพท์หน่อยได้ไหม จะติดต่อหัวหน้ากลุ่มที่บริษัทน่ะ
ได้สิครับ เอ่อ.. แล้วพี่รู้จักคนที่ชื่อ... ..มิ้นท์ ไหมครับ เขาหยุดพูดกลางคัน เพราะไม่แน่ใจว่าจะถามออกไปดีหรือไม่
ชื่ออะไรล่ะ
เวทย์ตัดสินใจในที่สุด ไม่มีอะไรครับ ลืม ๆ ไปเถอะครับ ผมแค่สับสนนิดหน่อย ครั้งนี้ความอยากรู้อยากเห็นของเขากลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ความรู้สึกลึก ๆ ในจิตใจ
เขาไม่ได้กลัวที่จะถาม แต่เขากลัวที่จะได้รับคำตอบ...
เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ เด็กหนุ่มกล่าวแล้วเดินตรงไปที่ห้องนอนของตน แต่เมื่อจับลูกบิดประตูก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เอ นี่พี่ยังไม่ได้อาบน้ำใช่ไหมครับ
ดรุณพยักหน้าแทนคำตอบ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพี่จะกลับไปอาบน้ำที่ห้องของพี่น่ะ
พี่มีกุญแจห้องเหรอครับ
คำถามของเวทย์ทำเอาชายหนุ่มชะงัก ...กุญแจห้องของเขาหายไปพร้อมกับกระเป๋าสตางค์แล้วนี่
ไว้ขอกุญแจดอกใหม่จากคุณป้าเจ้าของก็ได้ ดรุณตอบหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง
เด็กหนุ่มหมุนลูกบิดเปิดประตู และกำลังจะเดินเข้าห้องนอน แต่แล้วก็หันกลับไปหาดรุณอีกครั้ง ถ้าพี่ไปเมื่อไรช่วยล็อคประตูให้ด้วยนะครับ เดี๋ยวมีใครแอบเข้ามา
พูดจบร่างเล็กก็เข้าห้องนอนไป ปล่อยชายหนุ่มให้อยู่คนเดียวในห้องรับแขก ดรุณนึกแปลกใจที่เวทย์กล้าปล่อยให้เขาเฝ้าห้องเพียงลำพัง ถ้าเขาเป็นขโมยป่านนี้ของในห้องคงโดนยกเค้าหายเกลี้ยงไปหมดแล้ว ..อาจเพราะเวทย์ยังเป็นเด็ก จึงยังไม่รู้ประสีประสาว่าโลกแห่งความจริงบางครั้งก็โหดร้ายกว่าที่คิด
โชคดีที่เราไม่คิดอยากเป็นโจร เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ในห้องมากดโทร
********************
มิ้นท์เดินวกไปวนมาในห้องทำงานอย่างกระวนกระวาย เมื่อพบว่าโต๊ะสีส้มอันเป็นที่นั่งประจำของผู้ร่วมอุดมการณ์กลุ่มบีนั้นว่างเปล่า แม้แต่รูนผู้ไม่เคยโดดงานก็ยังหายตัวไป เธอจึงให้ใหญ่ออกไปตามหา
และได้ตระหนักว่าการรอคอยทำให้เวลาหนึ่งนาทียาวนานเหมือนหนึ่งชั่วโมงได้ง่าย ๆ...
ไม่ต้องเครียดไปหรอก เดี๋ยวพวกนั้นก็กลับมาเองนั่นแหละ ชายร่างอ้วนผมสีเงินพยายามพูดปลอบ
ไม่แน่หรอก พวกเขาอาจไม่กลับมาก็ได้ ก็เมื่อวานฉัน...
หญิงสาวกล่าวโทษตัวเอง ชายร่างอ้วนได้ฟังก็ถอนหายใจยาว ปิดปากเงียบ
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของมิ้นท์ก็ดังขึ้น เธอรีบคว้ามาอย่างมีความหวัง ทว่าเบอร์ที่แสดงบนหน้าจอกลับเป็นเบอร์ที่เธอไม่รู้จัก
สวัส..
นั่นพี่มิ้นท์ใช่ไหมครับ อีกฝ่ายแทรกขึ้น เสียงอันคุ้นหูทำให้มิ้นท์ชะงักไปครู่หนึ่ง เอ่อ พี่มิ้นท์หรือเปล่าครับ..
ก็ใช่น่ะสิ! เธอหายไปไหนมาน่ะ คราวหน้าถ้าจะลาหยุดก็บอกกันก่อนสิ หายไปทั้งกลุ่มแบบนี้ฉันตกใจแทบแย่! หญิงสาวรัวคำพูดเป็นชุด น้ำตาของเธอคลอเบ้า
หายไปทั้งกลุ่ม... หมายถึงทุกคนในกลุ่มบีหรือเปล่าครับ
มิ้นท์เริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลในคำพูดของรูน ถามอะไรแปลก ๆ ก็กลุ่มเธอหยุดกันทั้งกลุ่มเลยไม่ใช่หรือไง ไปเที่ยวไหนกันมาล่ะ
ผมไม่ได้ไปไหนครับ แล้วก็ไม่ได้อยู่กับพี่ ๆ กลุ่มบีด้วย บางทีพวกเขา...
รูนหยุดไว้เพียงเท่านั้น ทำให้หญิงสาวขมวดคิ้ว
ตอนนั้นเองประตูห้องทำงานก็เปิดโผงขึ้น ใหญ่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ขอโทษนะ ฉันพยายามแล้ว เขายื่นซองจดหมายสีขาวสี่ซองให้มิ้นท์
แต่พวกกลุ่มบีก็ยังยืนกรานว่าจะลาออกให้ได้ มีใบลาออกฝากมาให้เธอด้วย
มือถือของหญิงสาวร่วงกระทบพื้นทันทีที่ฟังจบ...
To be continued...
<<MA Tip เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับเกมมิทิเออร่า #8 การตั้งชื่อ & ฉายา>>
ตามปกติชื่อของตัวละครในมิทิเออร่าจะมาจาก Username ของตัวละคร เช่น เวทย์สมัครเข้าเกมด้วย username: Alive ชื่อตัวละครของเขาก็จะชื่อ Alive
แต่ Username ต้องเขียนด้วยภาษาอังกฤษ และ/หรือ สัญลักษณ์ _ เท่านั้น ไม่สามารถใช้ภาษาไทยหรือสัญลักษณ์อื่นได้ จึงมีทางเลือกที่จะทำให้ชื่อตัวละครมีสีสันขึ้น ด้วยระบบ ฉายา
ผู้เล่นสามารถตั้ง ฉายา ได้โดยการจ่ายค่าธรรมเนียม 1000 ริกซ์ ต่อการตั้งชื่อ ฉายา ตามหลัง Username เช่น PinnY ก็เปลี่ยนเป็น PinnY~ พี่ทุกสถาบัน
หรือสามารถจ่าย 3000 ริกซ์ เพื่อตั้ง ฉายา แทนที่ Username หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งคือการเปลี่ยนชื่อตัวละครนั่นเอง เช่น เข่ง, the Glorified
อย่างไรก็ตาม การตั้ง ฉายา ทำได้เพียงหนึ่งครั้งต่อหนึ่งตัวละคร ไม่สามารถเปลี่ยน ฉายา อีกครั้งได้ และเมื่อใช้ ฉายา ชื่อบนรองเท้าก็จะเปลี่ยนไปตาม ฉายา ด้วย
ข้อดีของ ฉายา คือ สามารถพิมพ์ด้วยภาษาหรือสัญลักษณ์อะไรก็ได้ แต่ด้วยราคาที่สูงพอสมควรทำให้ไม่เป็นที่นิยมมากนักในหมู่ผู้เล่นระดับต่ำ และผู้เล่นบางคนก็พอใจกับชื่อเดิมของตัวเองอยู่แล้วจึงไม่คิดจะใช้