“ณ ตั้งแต่บัดนี้ไป ข้าขอแต่งตั้งให้ ไร สึบาสะ รับหน้าที่ หน่วยสืบสวนราชการลับขององค์กรเรา”
เสียงนี้ดังกึกก้องในห้องประชุม ซึ่งเจ้าของเสียงนี้ก็คือชายชราคนหนึ่งท่าทางสูงศักดิ์ แต่ผู้ที่นั่งปลื้มยิ้มระรื่น
อยู่ก็ดูท่าจะมีเพียงเจ้าของชื่อที่ถูกขาน เขานั่งหัวเราะเล็กๆอยู่ ณ ที่นั่งในห้องประชุมนั้น
ไร สึบาสะ...
เด็กหนุ่มผู้มีเปลวผมสีเพลิง ซึ่งสีประจำตัวของเขาคงเป็นสีอื่นไปไม่ได้นอกเสียจากสีแดง เขาเป็นบุคคลที่ได้
รับการยกย่องคนหนึ่งในองค์กรปราบปรามเงามืดภายใต้อาณาจักรมนตรา ด้วยอายุอานามเพียงยี่สิบปี
เขาก็สามารถผลักดันตัวเองขึ้นมาเป็นหน่วยสืบสวนราชการลับได้ จากผลงานและฝีมือที่โดดเด่นกว่าคนอื่น
จึงทำให้มีคนในองค์กรมิใช่น้อยที่รู้สึกอิจฉาเขา
และนี่ก็เป็นที่มาของเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นสืบเนื่องจากตำนานบทเก่า พลิกโฉมหน้าภารกิจใหม่....
RAI’S SIDE Story
ย้อนกลับไปเมื่อปีศักราชเวทมนตร์ XX21 หลังไร สึบาสะเรียนจบได้สามปี
ณ บ้านเช่าหลังเล็กกลางอาณาจักรริฟฟิล
“ไรคุง!! นี่เช้าแล้วนะ วันนี้มีประชุมไม่ใช่เหรอ!?” เสียงเด็กสาวดังขึ้นมา ก่อนที่ประตูห้องนอน ไร จะถูกกระหน่ำเคาะ
“จะ...จ้า นานากะ” เสียงของเด็กหนุ่มตอบรับออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่เต็มใจจะกล่าว ก่อนที่เขาจะเปิดประตูออกมา
“จริงๆเลยนะ ต้องให้ปลุกกันตลอด”เมื่อพบหน้าเด็กหนุ่มผมเพลิง เด็กสาวผมสีชมพูก็บ่นเป็นช็อตๆจนนับไม่ถ้วน
‘เจอหน้ากันก็บ่นเลยเร๊อะ... ประทับใจจริงจริ๊ง นานากะ...’ ไรคิดในใจก่อนจะปิดประตูดัง ‘ปัง!’
“ว๊าย!! นี่ปิดประตูใส่หน้าฉันทำไมอะ มาคุยให้รู้เรื่องก่อนสิไรคุง!!”นานากะกระหน่ำเคาะประตูไม้อีกครั้ง
“จะเปลี่ยนเสื้อผ้า!! จะดูหรือไง!!”ไรเปิดประตูออกมาตะคอกนานากะกอนจะปิดประตูอีกครั้ง
“ง่า....”นานากะหน้าแดงก่อนจะทรุดลงหน้าห้องไรด้วยความคิดที่เตลิดไปไกล....
“จริงๆเลยน้า...”ไรบ่นขณะที่กำลังสวมเสื้อโค้ดสีน้ำตาลเข้มตัวโปรด และส่องกระจกเสริมหล่อ
“ท่านนานากะยังไม่รู้สินะค่ะ...”เสียงเฉียบของเด็กสาวดังขึ้นมา แน่นอนไรคุ้นเคยกับเสียงนี้เป็นอย่างดี
“จะให้รู้ได้ไงกัน ว่าฉันทำงานอันตรายแบบนั้น ให้คิดว่าฉันทำงานเป็นพนักงานบริษัทกิ๊กก๊อกก็พอ”ไรกล่าว
“นั่นสินะค่ะ...”เด็กสาวผมสีน้ำเงินนั่งคุกเข่าอยู่ข้างหลังไร
“งั้นวันนี้ก็ฝากนานากะด้วยนะ คอสมอส”ไรเอ่ยกับสาวน้อยที่อยู่เบื้องหลังก่อนจะผูกเนกไท
“รับทราบค่ะ ท่านไร ขอตัวนะค่ะ”คอสมอสกล่าวรับก่อนจะเดินออกจากห้องไป
‘วะ...ว่าแต่เธอเข้ามาได้ไงอะ...!?’ ไรเพิ่งรู้สึกตัวถึงบางสิ่งบางอย่าง...
ณ องค์กร ปราบปรามเงามืดภายใต้อาณาจักรเวทมนตร์
“ไง เจ้าหน้าที่ไร”เสียงของเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นมา ขณะที่ไรกำลังเดินเข้าที่ทำงาน
“อ่าว... คาร์ฟ มาได้ไง นายทำงานอยู่หน่วยเหนือไม่ใช่เร๊อะ...”ไรทำหน้างงๆขณะที่เด็กหนุ่มเบื้องหน้าของเขาก็คือ
คาร์ฟ เพื่อนรุ่นเดียวกันจากโรงเรียนเวทมนตร์ ซึ่งไม่นานเด็กสาวคนหนึ่งก็เดินออกมาต่อจากคาร์ฟ
“ไงค่ะ รุ่นพี่ไร” เด็กสาวท่าทางซุกซนคนนี้คือมิคุริ
“ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เจอกันที่หน่วยกลางของฉันนะเนี่ย...แล้วเกมกับคานาโกะล่ะ”ไรส่ายศีรษะเล็กน้อย
“รุ่นพี่เกมกับคานะจัง เขาติดธุระที่หน่วยเหนือ พวกเราถูกส่งมาแค่สองคนแค่นั้นแหละ...”มิคุริกล่าว
“พอดีมีภารกิจน่ะ... รู้สึกว่า อาณาจักรราเฟล จะมีการเคลื่อนไหวที่แปลกปลอม...”คาร์ฟอธิบาย
“แล้วเกี่ยวอะไรกับหน่วยกลางของฉันละ...”ไรเริ่มกล่าวเข้าเรื่องการที่ทั้งสองมาที่หน่วยของตน
“ก็นะ... จริงๆมันเป็นภารกิจของนาย พวกฉันถูกเรียกมาช่วยเท่านั้น..”คาร์ฟกล่าว
“ก็อย่างที่ว่าแหละ โชคดีนะไรคุง”เสียงของหน่วยสืบสวนที่หน่วยการดังขึ้นมา
“ดูท่าหัวหน้าจะตั้งความหวังไว้สูงเลยล่ะฮ่าๆๆ”ตัวประกอบเบอร์สองกล่าวขึ้นมาท่ามกลางเสียงหัวเราะ
“ดูท่ารุ่นพี่จะต้องทุ่มเทกับงานหน่อยละ...เหมือนพวกนั้นมันจะดูถูกรุ่นพี่มากเลย”มิคุริกระซิบไรที่ยังงุนงงอยู่
“ชิ... พวกนี้นะ คอยดูท่าฉันขึ้นไปอยู่ระดับสูงเมื่อไรจะสั่งปลดประจำการให้หมดเลย”ไรกล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“เอาน่าใจเย็นๆ...ก่อนอื่นเราไปทีอาณาจักร ราเฟลได้แล้วละ... ฉันติดต่อคนๆหนึ่งไวแล้ว...”คาร์ฟยิ้ม
ณ อาณาจักร ราเฟล
“นี่แหละคนที่ฉันติดต่อไว้”คาร์ฟยิ้มก่อนจะชี้ไปทางเด็กสาวในชุดเกราะอัศวินสีเงินดูสง่าเธอมีเกลียวผมสีชมพูยาวปะเอว
“อย่าบอกนะ...ว่า...”ไรเริ่มคิดได้ถึงบุคคลผู้นี้ขณะที่มองไปยังเธอซึ่งยืนหันหลังให้พวกเขาอยู่ ภายใต้ร่มไม้หน้าปราสาทหิน
“นิวจัง~!!”มิจังวิ่งโผเข้าไปหานิวทันทีที่เห็น
“นั่นไง...ว่าแล้ว”ไรใช้มือแตะหน้าผากเล็กน้อยเพราะไม่เชื่อในสายตาตนเองว่าจะพบนิวในคราบอัศวินสาว
“อ๊ะ...มิจัง”นิวหันหน้ามาทางต้นเสียงด้วยแววตาที่มีประกายนักสู้มากขึ้น เธอดูโตขึ้นมากจนพวกไรประหลาดใจ
“ได้เจอกันอีกแล้วดีใจจัง”มิจังกอดนิวอย่างแน่นประมาณเป็นต้นไม้คงหักแต่ดูเหมือนนิวจะไม่รู้สึกอะไรเลย
“อืม...เห็นรุ่นพี่คาร์ฟติดต่อมา แต่ไม่รู้เลยว่าจะมีมิจัง แล้วก็ รุ่นพี่ไรมาด้วยนะ”นิวกล่าวพร้อมมองไปทางไร
“เหอๆ ไม่เจอกันนานตั้งสามปีนี่นะ”ไรกล่าวออกมา
“งั้นเชิญทางนี้ก่อนเลย...”นิวกล่าวพร้อมนำทางพวกไรไป
ระหว่างทางเดินในปราสาทราเฟลนั้นเอง...
“อ่าว นิวนิ!! เป็นไงบ้างเรื่องเจ้าเต้น่ะ”เสียงของเด็กหนุ่มพราวกล้ามดังขึ้นมาพร้อมวิ่งเข้ามาหานิว
“นี่เงียบๆสิตาบ้า นี่มันเรื่องทางราชการ ฉันบอกนายไปกี่หนแล้ว”นิวตกใจที่เด็กหนุ่มเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“เอ่อ...ส่วนไอ้หมอนี่ เจ้าเคนใช่ไหม เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ...”ไรกล่าวพร้อมมองดูเคนรุ่นน้องที่คุ้นเคย
“เอ่อ...ใช่แล้วครับ รุ่นพี่ไร ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”เคนกล่าวอย่างนุ่มนวล
“อืม...แต่เอกลักษณ์คงเดิมจริงๆ...หน้าเปลี่ยนไปยังไงก็รู้ว่ามันคือเคน...”คาร์ฟกล่าวอย่างผู้รู้
“เอาละ... นายอยู่รอข้างนอกนะ ทางนี้พวกฉันจะจัดการเอง...”นิวบอกแก่เคนก่อนจะพาพวกไรเข้าประตูบานหนึ่งไป
“พามาแล้วค่ะ หน่วยสืบสวนพิเศษ ซากุระ คาร์ฟ , ฮาซาคุระ มิคุริ และ ไร สึบาสะค่ะ”นิวกล่าว
ไรมองไปยังเบื้องหน้าของห้องมืดที่มีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่และเชิงเทียนกลางโต๊ะที่ดูเหมือนจะเป็นแหล่งพลังงานแสง
หนึ่งเดียวในห้องนี้ จึงทำให้บรรยากาศห้องดูมืดมัวพอสมควร
“ยินดีต้อนรับทุกคนนะ... ต้องขอแรงพวกเธอหน่อยแล้วสำหรับเรื่องนี้ เพราะทางเราไม่มีมืออาชีพที่จะทำงานนี้ได้”
เสียงของชายชราดังขึ้น น้ำเสียงของเขาดูมากด้วยความสูงศักดิ์และเต็มไปด้วยอำนาจ
“เอ่อ...ท่านผู้นี้คือ เสนาบดีของอาณาจักรราเฟล ท่านโฮคาจิ”นิวกล่าวแนะนำชายชรา
“สวัสดีครับรุ่นพี่...”เสียงของเด็กหนุ่มดังมาจากมุมมืดของห้อง
“!!”คาร์ฟ มิคุริ และไรตกใจพร้อมหันไปทางต้นเสียงแต่ก็ไม่เห็นอะไรเพราะความมืด ทั้งสามคิดเป็นเสียงเดียวว่า ‘ใครฟะ’
“เอ่อ...โทษทีนะ เดี๋ยวเปิดไฟให้...”นิวบอกก่อนจะเปิดไฟของห้องเล็กๆแห่งนี้
“แล้วไหงไม่เปิดตั้งแต่แรก จะอยู่มืดๆไปทำไม...”ไรกล่าวด้วยน้ำเสียงชวนฉงน
“ไอ้บ้านี่ ไม่รู้อะไรเลย เขาปิดไฟไว้เพื่อกันโฉมหน้าของบุคคลสำคัญไง”คาร์ฟตะคอกใส่ไร
“เอ่อ รุ่นพี่ค่ะ พวกเราไม่ใช่เจ้าของสมุดสีดำกิ๊กก๊อกอะไรนั่นนะค่ะ”มิคุริกล่าวเบาๆ
“เปล่าหรอก คือท่านเสนาบดี โฮคาจิ เขาต้องการบรรยากาศน่ะ...”นิวกล่าวจนคาร์ฟและไรต้องอึ้งไปนานพอสมควร
“แล้วนั่น เต้สินะ...”มิคุริกล่าวทักเจ้าของเสียงที่เอ่ยขึ้นมาเมื่อครู่
“ครับ...”เด็กหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็ก
“เข้าเรื่องกันดีกว่านะค่ะ... คือท่านเสนาบดีต้องการให้พวกนายสืบเรื่องผู้ที่จะก่อความไม่สงบในงานขึ้นครองราชย์ของ
องค์ชายเต้ ซึ่งมีข่าวหลังจากการประกาศสถาปนาองค์ชายเต้ครั้งแรกว่าจะมีการก่อความไม่สงบ และมันก็เกิดขึ้นจริงๆ
จนงานนั้นต้องถูกระงับไปก่อน เหตุผลของพวกนั้นก็มาจากการคิดชิงบัลลังก์ของราชวงศ์ที่กำลังอ่อนแอเพราะขาดผู้นำ
ใขขณะนี้” นิวอธิบายสถานการณ์อย่างคร่าวๆ
“อืมอย่างนั้นเหรอ... งั้นคงต้องเหนื่อยหน่อยล่ะ เบาะแสก็น้อย คนก็น้อยเหอๆ”คาร์ฟสรุปองค์ประกอบขณะนี้
“งั้นฉันจะให้อัศวินชั้นสูงของเราไปกับพวกเธอซักคนละกัน รับประกันในฝีมือได้เลย”เสนาโฮคาจิกล่าว
“ใครงั้นเหรอค่ะ”มิคุริกล่าวด้วยความสงสัย
“งั้นเธอละกัน อาซากุระ นิว....”เสนาบดีกล่าว
“เอ่อ...ท่านแล้วเรื่องของที่นี่ละค่ะ”นิวกล่าวด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอก...เรามีทหารเพียงพอ”โฮคาจิกล่าว
“งั้นก็ได้ค่ะ...”นิวตอบรับ
“งั้นที่แรกที่เราจะไปก็คือ...”นิวกล่าว...
ณ บาร์เหล้าแห่งหนึ่งในเมืองโลเกรม อาณาจักรราเฟล
“ที่นี่แหละนะ” นิวเปิดประตูของบาร์เข้าไป ข้างในเป็นเพียงห้องเล็กๆที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียง
“อายุฉันยังไม่ถึงสิบแปดนะ...นิวจัง”มิคุริกล่าว
“หนูก็ยังไม่ถึง...”คาร์ฟกล่าวพร้อมวิ่งไปหลบข้างหลังนิว
“แหล...ฟระลุงคาร์ฟ...”ไรกล่าวก่อนจะเดินฝ่าฝูงชนในบาร์เข้าไปตามนิว
“จะมีทางลับอยู่ที่หลังบาร์เหล้าน่ะ... คนที่นี่ไม่สังเกตหรอกนะ”นิวกล่าวพร้อมชี้ทางให้พวกไร
“มะ...ไม่สังเกตเหรอเจ๊...”ไรกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เพราะสายตาของผู้คนต่างจ้องมาทางนิว
“แหม่...เจ๊พูดมาได้ เขาจะสังเกตก็เพราะไอ้ชุดอัศวินอันหรูหราของเจ๊นี่แหละ”คาร์ฟกล่าว
“รังสีอาฆาต...เต็มไปหมด สงสัยจะเป็นไอ้พวกนี้แหละนะ”มิคุริกล่าว
“อ่าว...ฉันผิดใช่ปะ... งั้นถ้าพวกนี้เป็นพวกมันก็เก็บมันให้หมดเลย...”นิวกล่าวพร้อมชักดาบสีเงินออกมาจากฝัก
“จะบ้าเหรอ!! มันจะยุ่งยากเอานา”คาร์ฟรั้งนิวไว้
“ไม่ทันแล้วล่ะค่ะรุ่นพี่ ดาบถูกชักออกมาแล้ว ถ้าไม่ได้อาบเลือดคงกลับเข้าฝักอย่างสงบไม่ได้”นิวกล่าวพร้อมตั้งท่าสู้
“อึก....”คาร์ฟชะงักไปพักหนึ่ง
“หรือจะให้เอาเลือดรุ่นพี่มาอาบดาบเพื่อช่วยชีวิตคนพวกนี้ดีไหมละค่ะ”นิวกล่าวด้วยแววตาน่ากลัว
“โหดชิบ...”ไรกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะส่ายหน้าไปมา
“ว๊าย~!! โหดสมเป็นนิวจัง”มิคุริดูท่าจะปลื้มออกนอกหน้าเป็นพิเศษ
ไม่นานผู้คนในบาร์ก็กรูเข้าใส่พวกไรอย่างไม่ลังเล
“ฆ่าพวกมัน พวกมันเป็นคนของอาณาจักร!!”เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น
“หึ...”นิวยิ้มก่อนจะพุ่งเข้าใส่ฝูงคนมากมายอย่างว่องไวด้วยความเร็วสูง
“ไม่ได้การละ...”คาร์ฟกำลังจะหยิบดาบยักษ์ที่แผ่นหลังแต่....ไม่นานเหล่าศัตรูที่ฮึกเหิมก็ลงไปนอนศิโรราบบนพื้นหมดแล้ว
“นี่แค่สันดาปเองไม่ถึงกับตายหรอกนะหึหึหึ”นิวกล่าวท่ามกลางฝูงคนที่นอนสลบเหมือด
“อะ....ไม่น่าเชื่อเลยนะ...”คาร์ฟไม่ทันจะหยิบอาวุธนิวก็จัดการศัตรูนับสิบเบื้องหน้าได้หมดแล้ว
“ไหนบอกต้องอาบเลือดไง...”ไรกล่าวขึ้นมา
“อาบเลือดรุ่นพี่ไรแทนได้ไหมละค่ะอิอิอิ”นิวกล่าวก่อนจะเก็บดาบเข้าฝัก
หลังจากนั้น พวกไรก็เข้าไปยังทางลับที่นิวค้นพบ
“ต่อจากนี้จะเจออะไรละนิว”ไรเอ่ยถามขณะที่เดินนำในทางแคบๆ
“ไม่รู้สิ ฉันแค่เปิดประตูมาแล้วก็ออกไปเลย...”นิวกล่าวอย่างไร้ความรับผิดชอบ
“หา!?... แล้วให้ฉันนำทางเนี่ยนะ”ไรตกใจ
“เฮ้ย ใครน่ะ!!”เสียงนี้ดังขึ้นจากปลายทางที่พวกไรกำลังจะไป
“ชิ พวกมันรู้ตัวแล้ว!!”นิวกล่าวก่อนจะหันไปข้างหลัง
พรึ่บ!! ไม่ช้า ไฟนับสิบดวงก็ส่องสว่างขึ้น ดักทางทั้งสองทางของพวกไร
สถานการณ์ของพวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเสียแล้วเนื่องจากถูกล้อมไปด้วยศัตรู
“แย่แล้วละ...”คาร์ฟตั้งสติก่อนจะคว้าดาบที่หลังออกมา
“เหอๆ...สู้ไหมค่ะ”มิคุริกล่าวไม่นานออร่าสีเขียวก็สว่างไปทั่ว
“ได้อาบเลือดจริงๆแหะวันนี้”นิวกล่าวพร้อมเรียกออร่าสีชมพูออกมา
“เอาละ...ไม่ได้ลุยมานานละ...”ไรยิ้มก่อนจะตั้งท่าเตรียมสู้
“Grave Keeper Cloak’s!!”
แสงสีเขียวทะยานใส่ศัตรูจากปากทางจนพวกนั้นหายลับไปหมด ศัตรูนับสิบหายไปในพริบตา!?
“เวทมนตร์นี้!!”ไรคุ้นเคยกับสำเนียงมนตรานี้ดีหันไปทางปากทางที่พวกเขาเข้ามาทันที
“มาช่วยแล้วเฟ้ย!!”เด็กหนุ่มกล่าวพร้อมเดินออกมาจากมุมมืดข้างหลังพวกไร
“เจเนะงั้นเร๊อะ!!”ไรตกใจเล็กน้อยที่พบกับเขาในที่แบบนี้
“มาได้ไงเนี่ย...”นิวกล่าวอย่างวิตก
“ที่ไหนมีบท ที่นั้นมีฉันอะ เหอๆ ไม่ใช่หรอก ไอ้หนูนี่มันติดต่อมาน่ะ”เจเนะกล่าวพร้อมหันไปข้างหลัง
ไม่นานเคนก็เดินก้มหน้ามาอย่างช้าๆ
“ขอโทษนะครับ แต่ผมเป็นห่วงน่ะ...”เคนกล่าวอย่างซึมๆ
“จะซึมไปทำไมละ ไอ้งานแบบนี้มันต้องหลายๆคนซิถึงจะหนุก”เจเนะยิ้ม
“เคน....บอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่งในเรื่องอันตรายแบบนี้”นิวกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉียบๆ
‘อุว๊าย... นี่มันขอโทษนิวซินะ...’เจเนะคิดในใจ
‘นะ...นิวจังน่ากลัวกว่าไอ้พวกศัตรูข้างหน้าอีกแหะ...’ไรเริ่มตึงเครียด
-จบ-
---แถม---